Panida
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555
ประวัติ คิมฮยอนจุง และอื่นๆ
ประวัติ คิมฮยอนจุง
ชื่อ : คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong)
วันเกิด : 6 มิถุนายน พ.ศ.2529 (ค.ศ.1986)
ครอบครัว : มีพี่ชาย 1 คน
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 180 ซม. / 68 กก.
การศึกษา : Hanyang Industrial High School
งานอดิเรก : ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก, บาสเกตบอล, ฟุตบอล
ความสามารถพิเศษ : เล่นกีตาร์, เปียโน, เต้น
ผลงานละคร
Nonstop5 (MBC,2005)
Can Love Be Refilled? (KBS,2005)
Hotelier (TV Asahi, 2007)
Spotlight (MBC, 2008)
Boys Before Flowers หรือ f4 เกาหลี (KBS, 2009)
ผลงานเพลง
หัวหน้าวงและหนึ่งในนักร้องนำวง SS501
ชื่อ : คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong)
วันเกิด : 6 มิถุนายน พ.ศ.2529 (ค.ศ.1986)
ครอบครัว : มีพี่ชาย 1 คน
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 180 ซม. / 68 กก.
การศึกษา : Hanyang Industrial High School
งานอดิเรก : ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก, บาสเกตบอล, ฟุตบอล
ความสามารถพิเศษ : เล่นกีตาร์, เปียโน, เต้น
ผลงานละคร
Nonstop5 (MBC,2005)
Can Love Be Refilled? (KBS,2005)
Hotelier (TV Asahi, 2007)
Spotlight (MBC, 2008)
Boys Before Flowers หรือ f4 เกาหลี (KBS, 2009)
ผลงานเพลง
หัวหน้าวงและหนึ่งในนักร้องนำวง SS501
คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) เกิดวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2529 มีพี่ชาย 1 คน เรียนจบมัธยมที่ฮันยาง อินดัสเทรียล ไฮสคูล สมัยเรียนมัธยมเขาเป็นนักกีฬาตัวยง ถนัดทั้งว่ายน้ำ ยกน้ำหนัก บาสเกตบอล ฟุตบอล ด้านดนตรีก็มีความสามารถไม่น้อย เพราะเล่นได้ทั้งกีตาร์ และเปียโน ส่วนด้านวิชาการก็ไม่ได้ยิ่งหย่อน เขาจัดเป็นเด็กเรียนดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเลขและวิทยาศาสตร์ ถึงขนาดเคยชนะการแข่งขันโอลิมปิกสมัยเรียนประถมมาแล้ว เรียกได้ว่าเหรียญรางวัลของเขามีมากมายจนเต็มกล่อง และผลการเรียนก็มักจะติดอันดับ 1 หรือ 2 ของโรงเรียนเสมอ ขนาดสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย เขายังได้อันดับที่ 4 ที่มีคะแนนสูงสุดในการสอบเข้าอีกด้วย แต่ หลังจากเรียน ม.ปลาย ไปได้เพียง 1 ปี จู่ ๆ คิมฮยอนจุง ก็หมดความสนใจในการเรียนไปซะดื้อ ๆ แล้วหันไปทุ่มเทเวลาให้กับการเล่นกีตาร์ที่เจ้าตัวโปรดปราน ถึงขนาดพร่ำเพ้อจะเป็นร็อกเกอร์สตาร์ให้จงได้ ซึ่งครูที่สอนกีตาร์ให้กับเขาบอกว่า คิมฮยอนจุง มีพรสวรรค์มาก บางอย่างต้องใช้เวลาเรียนถึง 3 ปี แต่เขาสามารถเรียนรู้ได้ภายใน 3 เดือน ด้วยเหตุนี้ เจ้าตัวจึงทำเรื่องดร็อปเรียนไว้กว่าปีครึ่งเพื่อตั้งวงดนตรี พร้อม ๆ กับทำงานพาร์ทไทม์ส่งไก่ทอด ก่อนจะกลับมาเรียนต่อเมื่อคิดได้
ในช่วงเวลานั้นเองพี่ชายของเขา ซึ่งเรียนอยู่ที่อเมริกาตัดสินใจจะหยุดเรียน เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงพอ น้องชายที่น่ารักอย่าง คิมฮยอนจุง ก็ทำการส่งหนังสือมอบเป็นของขวัญให้กับพี่ชายพร้อมกับบอกให้เปิดอ่าน โดยในนั้นมีเช็คเงินจำนวนหนึ่งซ่อนอยู่ ซึ่งค่อนข้างมากพอสมควร ที่ ได้มาจากการเก็บออมเขาจากการทำงานและเป็นนักร้องฝึกหัด และนั่นกลายเป็นเรื่องราว ที่สร้างอึ้งเคล้าความประทับใจให้กับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก
ต่อมา คิมฮยอนจุง เข้าศึกษาต่อด้านมัลติมีเดีย ในมหาวิทยาลัย GyeongGi แต่ก็ยังไม่ละความฝันอยากเป็นนักร้องซะทีเดียว เขาตัดสินใจเข้ารับการออดิชั่น และได้รับเลือกในปี 2004 ด้วยใจหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะได้เป็นสมาชิกวงร็อก หากแต่ทุกอย่างก็กลับตาลปัตร เมื่อเขาถูกจับให้มาเป็นหัวหน้าวงไอดอลหนุ่มล้วนในนาม SS501 (ดับเบิลเอสไฟว์โอวัน) ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดฝัน คิมฮยอนจุง จึงคิดจะลาออกจากการเป็นนักร้องอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ หลังพบว่า การที่เขาเข้ามาเป็นสมาชิกวง SS501 เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แม่ของเขามีความสุข และภาคภูมิใจในตัวลูกชาย เขาจึงเปลี่ยนความคิดใหม่และทำให้มี คิมฮยอนจุง จนถึงทุกวันนี้
หลังเริ่มต้นด้วยอาชีพนักร้องในฐานะหัวหน้าวงSS501ความนิยมของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เฉพาะที่เกาหลี แต่ยังเผื่อแผ่ไปยังแดนปลาดิบ และประเทศในแถบเอเชียใกล้เคียงอีกด้วย ยิ่งมาได้รับบทสามีเด็กของดาราสาว ฮวางโบ ในเรียลิตี้โชว์เรตติ้งสูงอย่าง We've Got Married ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของ คิมฮยอนจุง ดังเป็นพลุแตกเข้าไปใหญ่ ก่อนจะมาได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 พระเอกละครซีรี่ส์เรื่องBoys Over Flowers หรือ F4 เวอร์ชั่นเกาหลี
SS501
SS501 - Love Like This
Please be nice to me - Kim Hyun Joong
SS501 Solo Collection Drama Ep2
SS501 Solo Collection Drama Ep3 + NG(Final)
การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแรมบน Xp
วันนี้หาเคล็ดไม่ลับและไม่ยากจนเกินไปสำหรับท่านที่ยังใช้
XP กันอยู่ซึ่งยังคงมีเยอะกว่า 7 ถึงแม่ตอนนี้ผมเองก็อยากหันไปใช้ 7 แต่ด้วยสถานการณ์สุดท้ายก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี
มาดูกันต่อซึ่งวิธีนี้ จะเป็นการแก้ไขค่าในรีจิสตรี
ที่จะช่วยทำให้ระบบโหลดเคอร์เนลใน Windows XP เอาไปเก็บไว้ในแรมเลย
และวิธีการนี้จะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพของแรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่เครื่องที่สามารถใช้งานได้จะต้องมีแรมไม่ต่ำกว่า
256MB ขึ้นไปซึ่งน่าจะเกินกันอยู่แล้วเพราะเดียวนี้อย่างน้อยแต่ละเครื่องก็ต้องมีแรมเกิน
1GB (1024MB) ขึ้นไปอยู่แล้วนอกจากเครื่องที่ท่านใช้จะเก่าอย่างรุนแรง
ซึ่งหากยังใช้เครื่องที่ช้าขนาดนั้นได้อยู่ก็คงไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรแล้วละ
คงไม่มีอะไรช่วยได้แล้วนอกจากซื้อเครื่องใหม่ซะเลย
ขั้นตอนการทำดังต่อไปนี้
1.เปิดโปรแกรม Registry Editor ขึ้นมา โดยคลิกที่ Start
> Run >
ในหน้าต่าง RUN
พิมพ์ Regedit กด OK
2. เข้าไปที่
> HKEY_LOCAL_MACHINE
> SYSTEM
> CurrentControlSet
> Control
> SessionManager
> Memory Management
3. ให้หาคีย์ดังต่อไปนี้
ที่หน้าต่างทางขวงมือ
"DisablePagingExecutive"=dword:00000000
"LargeSystemCache"=dword:00000000
"LargeSystemCache"=dword:00000000
"DisablePagingExecutive"=dword:00000001
"LargeSystemCache"=dword:00000001
"LargeSystemCache"=dword:00000001
ถ้ามีอยู่แล้วจะมีดังสองหัวข้อดังแสดงในรูปด้านล่าง
จากนั้นให้เปลี่ยนค่าโดยคลิกขวาที่หัวข้อทีละอันแล้วเลือที่ modify
เปลี่ยนเลข 0 ตัวสุดท้ายให้เป็นเลข 1
5. รีสตาร์ทเครื่องใหม่
เพื่อให้ค่าที่เปลี่ยนแปลงเริ่มทำงาน
6. หากต้องการให้ค่าต่างๆที่ปรับแต่งไว้กลับเป็นเหมือนเดิม
ให้เปลี่ยนจาก 1 ไปเป็น 0
ข้อมูลหายมาดูวิธีการกู้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์กัน^_^
วิธีการกู้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์
จะเอาอะไรมากู้ข้อมูล
เครื่องมือที่จะมาช่วยคุณในการแก้ไขปัญหานี้ก็จะเป็นซอฟต์แวร์ประเภทที่ใช้ ในการจัดการกับพาร์ทิชันอย่างเช่น Partition Magic ซึ่งนอกจากความสามารถในการสร้าง ลบ ย่อ ขยาย ขนาดของพาร์ทิชันแล้ว มันก็ยังสามารถจะซ่อมแซมโครงสร้างของพาร์ทิชันหรือระบบไฟล์ให้กับคุณได้อีก ด้วย
พื้นฐานโครงสร้างของฮาร์ดดิสก์นั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก
เพราะเป็นส่วนของจานเหล็กที่เคลือบสารแม่เหล็กเอาไว้
ทำให้มีคุณสมบัติสามารถเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กที่อยู่บนพื้นผิวจานได้
และนั่นก็คือที่มาของการบันทึกข้อมูล
โดยการเปลี่ยนแปลงสนามเหล็กให้การเป็นรูปแบบข้อมูลดิจิตอล (0 หรือ1, เปิด หรือ
ปิด) โดยหน้าที่นี้เป็นของหัวอ่าน-เขียน
ซึ่งจะลอยอยู่เหนือแผ่นจานแม่เหล็กเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
ดังนั้นข้อมูลที่เรียงกันอยู่บนจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์จึงมีปริมาณมาก มายมหาศาล
เวลาที่เราลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ไปแล้ว
ข้อมูลต่างๆ ก็ควรจะต้องหายไป แล้วคุณเคยสงสัยไหมครับ ว่าในเมื่อข้อมูลต่างๆ
มันหายไปแล้ว แล้วมันถูกกู้คืนกลับมาได้อย่างไร
ความจริงแล้วคอมพิวเตอร์นั้นแอบขี้โกงเราอยู่เหมือนกันครับ
เนื่องจากสื่อบันทึกข้อมูลอย่างฮาร์ดดิสก์เองก็จะทำงานหรือเก็บบันทึกข้อมูล
ด้วยการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กบนจานเพื่อบันทึกค่า
ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการเขียน-อ่านอยู่พอสมควร
ดังนั้นเพื่อความรวดเร็วในการลบข้อมูล ข้อมูลต่างๆ จึงไม่ได้ถูกลบไปจริงๆ
แต่จะถูกมาร์กเอาไว้ในระบบไฟล์ว่าข้อมูลในส่วนนั้นๆ ถูกลบไปแล้ว
ทั้งที่จริงแล้วข้อมูลก็ยังคงอยู่ที่เดิมของมันอยู่
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาเราสร้างไฟล์ 1 กิกะไบต์ จึงช้ามาก
ในขณะที่ลบไฟ 1 กิกะไบต์
นั้นเร็วจนแทบมองไม่ทันกันเลยทีเดียว
ดังนั้นแล้วข้อมูลต่างๆ ของเราก็อาจจะยังคงอยู่ในฮาร์ดดิสก์ที่เราใช้ นั่นหมายความว่าเรายังพอมีสิทธิที่จะแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดไว้ให้กลับคืนมา ดังเดิมได้อยู่ และนี่คือวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้คุณได้ข้อมูลสำคัญๆ คืนมา
ดังนั้นแล้วข้อมูลต่างๆ ของเราก็อาจจะยังคงอยู่ในฮาร์ดดิสก์ที่เราใช้ นั่นหมายความว่าเรายังพอมีสิทธิที่จะแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดไว้ให้กลับคืนมา ดังเดิมได้อยู่ และนี่คือวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้คุณได้ข้อมูลสำคัญๆ คืนมา
1. การกู้ไฟล์ที่เราได้ทำการลบไป
บางครั้งเราก็อาจจะเผลอลบไฟล์งานเอกสารสำคัญๆ ของเราไปด้วย
เมื่อสั่งลบไปแล้ว มันก็จะไปอยู่ในถังขยะหรือว่าเจ้า Recycle Bin แทน จริงอยู่ครับว่าไฟล์ที่ถูกลบไป มันจะถูกย้ายไปไว้ในถังขยะ
แต่สำหรับคนที่ต้องการทำงานแบบรวดเร็วจนติดเป็นนิสัย ก็เลยลบข้อมูลอย่างรวดเร็ว (Shift+Del)
งานนี้ข้อมูลของคุณไม่ได้อยู่ในขยะแน่นอนครับ
นอกจากนี้กรณีที่คุณเผลอลบไฟล์ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ถังขยะจะสามารถรับ
ได้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ไฟล์ของคุณจะได้รับสิทธิในการลบข้อมูลไปเลยโดย
ไม่ต้องผ่านถังขยะด้วยเช่นกัน
**ขนาดถังของ Recycle Bin ที่คุณกำหนดไว้อาจจะไม่ใหญ่เพียงพอ ทำให้ไฟล์ถูกลบไปเลยก็ได้
วิธีการกู้ที่ง่ายที่สุดก็ต้องเป็นโปรแกรมประเภท Undeleted ทั้งหลายที่พอจะช่วยคุณได้ แต่ข้อจำกัดของโปรแกรมประเภทนี้ก็คือคุณจะต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนที่คุณจะลบ ไฟล์นะครับ
หลักการทำงานของโปรแกรมประเภทนี้อยู่ที่การคอยสอดส่องว่าคุณมีการทำงานกับ ไฟล์อะไรบ้าง มีการลบไฟล์อะไรไปบ้าง แล้วมันจึงแอบเก็บข้อมูลของไฟล์ที่คุณลบเอาไว้เอง จะว่าไปมันก็เหมือนกับเป็นการทำหน้าที่ Recycle Bin อย่างลับๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งคราวนี้เราก็จะสามารถกู้คืนไฟล์ที่เราเพิ่งลบไปให้กับมาอยู่ในอ้อมอกของ เราได้เหมือนเดิมครับ
**ขนาดถังของ Recycle Bin ที่คุณกำหนดไว้อาจจะไม่ใหญ่เพียงพอ ทำให้ไฟล์ถูกลบไปเลยก็ได้
วิธีการกู้ที่ง่ายที่สุดก็ต้องเป็นโปรแกรมประเภท Undeleted ทั้งหลายที่พอจะช่วยคุณได้ แต่ข้อจำกัดของโปรแกรมประเภทนี้ก็คือคุณจะต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนที่คุณจะลบ ไฟล์นะครับ
หลักการทำงานของโปรแกรมประเภทนี้อยู่ที่การคอยสอดส่องว่าคุณมีการทำงานกับ ไฟล์อะไรบ้าง มีการลบไฟล์อะไรไปบ้าง แล้วมันจึงแอบเก็บข้อมูลของไฟล์ที่คุณลบเอาไว้เอง จะว่าไปมันก็เหมือนกับเป็นการทำหน้าที่ Recycle Bin อย่างลับๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งคราวนี้เราก็จะสามารถกู้คืนไฟล์ที่เราเพิ่งลบไปให้กับมาอยู่ในอ้อมอกของ เราได้เหมือนเดิมครับ
ข้อจำกัดของรูปแบบการกู้คืนข้อมูลแบบนี้ก็คือโปรแกรมที่ใช้สำหรับการ
Undeleted นี้จะต้องติดตั้งโปรแกรมลงไปก่อน
เพื่อที่จะจะได้ให้มันคอยตรวจสอบไฟล์ที่เราเพิ่งสั่งลบไป
และคอยเก็บข้อมูลสำรองเอาไว้ให้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อทำเช่นนี้แล้ว
คุณก็จะต้องยอมเสียพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ไปบางส่วนเพื่อแลกกับความปลอดภัยของ ไฟล์
บางโปรแกรมกินพื้นที่เยอะ เพราะใช้วิธีการแบ็กอัพไฟล์เอาไว้เลย
หรือบางโปรแกรมอาจจะใช้วิธีการเก็บ Log การลบไฟล์เอาไว้
แล้วสั่งถอดมาร์กที่ระบบปฏิบัติการได้ทำไว้เพื่อให้รู้ว่าเป็นไฟล์ที่ถูกลบ
ออกไปก็จะกินพื้นที่น้อยกว่า.
2. การกู้ข้อมูลที่เกิดจากการฟอร์แมตไดรฟ์ไป (ข้อมูลอาจกลับมาไม่ครบลองอ่านดูนะครับ)
คงจะมีบ้างที่เรา ๆ ท่าน ๆ
อาจเกิดฟอร์แมตผิดไดรฟ์ในขั้นตอนการติดตั้งวินโดวส์
หรือถ้าจะให้ดูใกล้ตัวกว่านั้นอาจจะเป็นกรณีที่ว่าคุณต้องการฟอร์
แมตลงวินโดวส์ใหม่อยู่แล้ว
หลังจากสั่งฟอร์แมตและเตรียมตัวจะลงระบบปฏิบัติใหม่นั้นนึกขึ้นมาได้ว่ายัง
มีไฟล์งานสำคัญที่ยังไม่ได้แบ็คอัปอยู่ ฟอร์แมตก็ทำไปแล้วจะทำยังไง แถมโปรแกรม Undeleted
ก็ช่วยไม่ได้อีกต่างหาก
ส่วนนี้ต้องใช้โปรแกรมเข้าช่วยเช่นโปรแกรม GetDataBack แล้วพวกโปรแกรมมันกู้ได้ก็เนื่องจากข้อมูลต่างๆ ที่เราสั่งลบไปนั้นไม่ได้มีการถูกลบไปจริงๆ เพียงแต่จะเป็นการมาร์กเอาไว้ว่าข้อมูลนั้นๆ ถูกลบไปแล้ว การฟอร์แมตก็คล้ายๆ กัน โดยเฉพาะการฟอร์แมตแบบรวดเร็ว (Quick Format) ด้วยแล้ว มันก็เหมือนกับการลบไฟล์ทุกไฟล์ออกไปจากไดรฟ์นั้นเองครับ โปรแกรมพวกนี้มีหลายยี่ห้อก็เลือกใช้กันได้เลยครับ
ซึ่งทำให้มันสามารถมองเห็นข้อมูลที่ระบบปฏิบัติการมองไม่เห็นหรือก็คือข้อมูลที่ถูกลบไปแล้วนั่นเองครับ ข้อจำกัดของโปรแกรมประเภทนี้ก็มีอยู่เหมือนกันครับ เพราะใช่ว่ามันจะสามารถกู้ได้ทุกอย่างอย่างแรกเลยก็คือ มันไม่สามารถกู้ข้อมูลที่ถูกเขียนทับไปแล้วได้ เนื่องจากมันอาศัยการกู้จากเศษข้อมูลที่หลงเหลืออยู่ในดิสก์.
ส่วนนี้ต้องใช้โปรแกรมเข้าช่วยเช่นโปรแกรม GetDataBack แล้วพวกโปรแกรมมันกู้ได้ก็เนื่องจากข้อมูลต่างๆ ที่เราสั่งลบไปนั้นไม่ได้มีการถูกลบไปจริงๆ เพียงแต่จะเป็นการมาร์กเอาไว้ว่าข้อมูลนั้นๆ ถูกลบไปแล้ว การฟอร์แมตก็คล้ายๆ กัน โดยเฉพาะการฟอร์แมตแบบรวดเร็ว (Quick Format) ด้วยแล้ว มันก็เหมือนกับการลบไฟล์ทุกไฟล์ออกไปจากไดรฟ์นั้นเองครับ โปรแกรมพวกนี้มีหลายยี่ห้อก็เลือกใช้กันได้เลยครับ
ซึ่งทำให้มันสามารถมองเห็นข้อมูลที่ระบบปฏิบัติการมองไม่เห็นหรือก็คือข้อมูลที่ถูกลบไปแล้วนั่นเองครับ ข้อจำกัดของโปรแกรมประเภทนี้ก็มีอยู่เหมือนกันครับ เพราะใช่ว่ามันจะสามารถกู้ได้ทุกอย่างอย่างแรกเลยก็คือ มันไม่สามารถกู้ข้อมูลที่ถูกเขียนทับไปแล้วได้ เนื่องจากมันอาศัยการกู้จากเศษข้อมูลที่หลงเหลืออยู่ในดิสก์.
อีกกรณีหนึ่งที่ไม่สามารถกู้คืนได้ก็คือกรณีของการ
Low Level Format ซึ่งถือว่าเป็นการฟอร์แมตที่ล้างข้อมูลได้อย่างสะอาดที่สุด
เพราะจะมีการจัดรูปแบบของคลื่นแม่เหล็กใหม่ โดยใช้หลักการเขียนข้อมูลที่เป็น 1
และตามด้วย 0 ไปลงในทุกๆ Sector ข้อมูล ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ว่างเปล่า หรือพูดง่ายๆ
ก็คือถูกเขียนทับด้วยข้อมูลเปล่าทั้งหมดนั้นเอง
3.กู้พาร์ทิชันที่เสียหาย
หากวันไหนเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วบูตไม่ขึ้น รวมถึงยังไม่สามาถเข้าไปเอาข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ออกมาได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นไปได้ทั้งจากฮาร์ดแวร์ หรืออาจจะเป็นจากซอฟต์แวร์ซึ่งก็คือเป็นเพียงแค่โครงสร้างข้อมูลของไดรฟ์ หรือพาร์ทิชันเสียหาย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเสียด้วย อันนี้เจอบ่อยเวลาใครเอาเครื่องมาให้ซ่อมสาเหตุส่วนมากจะเกิดจากการเครื่องดับไม่ได้ shutdown เวลาเข้าวินโดวส์จะเข้าวนอยู่เรือย ๆ แล้วลองเข้าไปดู partition จะบอกว่า unknow มีทางแก้ครับ
หากวันไหนเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วบูตไม่ขึ้น รวมถึงยังไม่สามาถเข้าไปเอาข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ออกมาได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นไปได้ทั้งจากฮาร์ดแวร์ หรืออาจจะเป็นจากซอฟต์แวร์ซึ่งก็คือเป็นเพียงแค่โครงสร้างข้อมูลของไดรฟ์ หรือพาร์ทิชันเสียหาย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเสียด้วย อันนี้เจอบ่อยเวลาใครเอาเครื่องมาให้ซ่อมสาเหตุส่วนมากจะเกิดจากการเครื่องดับไม่ได้ shutdown เวลาเข้าวินโดวส์จะเข้าวนอยู่เรือย ๆ แล้วลองเข้าไปดู partition จะบอกว่า unknow มีทางแก้ครับ
ส่วนใหญ่ปัญหาที่เป็นสาเหตุทำให้พาร์ทิชันสำหรับเก็บข้อมูลของคุณเกิดปัญหา
ขึ้นก็คือ การเกิดความเสียหายขึ้นกับระบบไฟล์
ซึ่งเจ้าระบบไฟล์นี้จะเป็นโครงสร้างข้อมูลที่ชี้ไปยังตำแหน่งของข้อมูลจริงๆ
ที่อยู่บนไดรฟ์ คงพอนึกออกใช่ไหมครับว่าถ้าเกิดความเสียหายที่ตัวข้อมูล
มันก็อาจจะทำให้ข้อมูลหายเท่านั้น แต่ถ้ามันเกิดความเสียหายที่ระบบไฟล์
ข้อมูลทั้งหมดภายในไดรฟ์ก็จะได้รับผลกระทบไปหมดเลย.
เครื่องมือที่จะมาช่วยคุณในการแก้ไขปัญหานี้ก็จะเป็นซอฟต์แวร์ประเภทที่ใช้ ในการจัดการกับพาร์ทิชันอย่างเช่น Partition Magic ซึ่งนอกจากความสามารถในการสร้าง ลบ ย่อ ขยาย ขนาดของพาร์ทิชันแล้ว มันก็ยังสามารถจะซ่อมแซมโครงสร้างของพาร์ทิชันหรือระบบไฟล์ให้กับคุณได้อีก ด้วย
**โปรแกรม Partition Magic โปรแกรมโปรคู่มือนักกู้ข้อมูล
โปรแกรม
Active
partition recovery เครื่องมือดีๆ ที่ใช้กู้พาร์ทิชันทั้งอันได้
นอกจากนี้ยังมีกรณีของการลบพาร์ทิชันผิด
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุที่ว่าแบ่งพาร์ทิชันไว้จำนวนมากแล้วเกิดความสับสนเอง
หรืออาจจะเป็นเพราะชื่อไดรฟ์มันเปลี่ยนไปในแต่ละระบบปฏิบัติการ
ก็ส่งผลให้ข้อมูลในนั้นหายไปหมดด้วยเช่นกัน
ซึ่งในรูปแบบเช่นนี้ก็มีโปรแกรมที่สามารถกู้คืนพาร์ทิชันที่ถูกลบไปได้อยู่
เหมือนกัน เช่น Active Partition Recovery ซึ่งมันจะสแกนดูว่าเราเคยมีการสร้างพาร์ทิชันอะไรไว้
จากนั้นมันก็จะกู้คืนสถานะของพาร์ทิชัน ระบบไฟล์ และไฟล์ข้อมูลต่างๆ
ที่เคยอยู่ในพาร์ทิชันให้กลับคืนมาเหมือนเดิม
4.กู้ฮาร์ดดิสก์ที่เป็น Bad
Sector
เมื่อพูดถึง Bad Sector แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้หลายๆ คน เกลียดมันที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันกำลังจะทำให้ข้อมูลของคุณเสียหายได้ในไม่ช้า อย่างที่เราได้พูดถึงการทำงานของฮาร์ดดิสก์กันมาข้างต้นแล้ว จะเห็นว่าฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนประกอบที่มีความบอบบางมากทีเดียว โดยเฉพาะส่วนของจานแม่เหล็กและหัวอ่าน ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงแค่นิดเดียว เรียกได้ว่าเส้นผมคนเรายังลอดผ่านไม่ได้กันเลยทีเดียว ดังนั้นหัวอ่านก็อาจจะมีกระทบกับจานแม่เหล็กอยู่เหมือนกันในกรณีที่เกิดแรง สั่นสะเทือนมากๆ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกแรงกระแทก นอกจากนี้การที่สารฉาบเคลือบผิวของจานแม่เหล็กนั้นเสื่อมสภาพ หรือสนามแม่เหล็กในบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถบันทึกข้อมูล สิ่งเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิด Bad Sector ขึ้นมาได้
ตามปกติเมื่อข้อมูลของเราโชคร้าย ไปอยู่ในส่วนที่เป็น Bad Sector พอดิบพอดี ก็จะทำให้ข้อมูลส่วนนั้นๆ ไม่สามารถอ่านได้เลย เนื่องจากฮาร์ดดิสก์จะพยายามเข้าไปอ่านส่วนที่เป็น Bad Sector นั้น ดังนั้นสิ่งที่พอจะสามารถทำได้ในการกู้ข้อมูลกลับคืนมาก็คือการใช้โปรแกรม ช่วยอย่างเช่นโปรแกรมสำหรับการสแกนดิสก์ ที่สามารถรองรับการทำ Surface Test ด้วย เพื่อที่มันจะได้มองหาโปรแกรม Bad Sector ได้ และโปรแกรมเหล่านี้ก็ยังสามารถที่จะกู้ข้อมูลที่อยู่ที่ Bad Sector ขึ้นมาได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดวงด้วยเหมือนกันว่าไฟล์ที่กู้ขึ้นมานั้นเป็นไฟล์อะไร และจะต้องยอมรับด้วยไฟล์ที่กู้คืนมาได้คงจะไม่ได้มีความสมบูรณ์ 100% นะครับ พร้อมกันนี้โปรแกรมที่ว่านี้ยังช่วยมาร์กจุดของ Bad Sector เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์มีการเขียนข้อมูลลงไปที่ Bad Sector อีก
**โปรแกรมสำหรับทำ Low level Format มีหลายตัว แต่ที่เหมาะคือ ?ของผู้ผลิตเอง?
แม้ว่าเราจะสามารถกู้คืนข้อมูลที่อยู่ใน Bad Sector ขึ้นมาได้แล้ว และได้มาร์กจุดของ Bad Sector เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีข้อมูลผู้โชคร้ายถูกเขียนลงไปอีก แต่ความน่ากลัวของมันก็ยังไม่หมด เนื่องจาก Bad Sector อาจจะมีอาการลุกลามเพิ่มขึ้นได้อีกจากจุดเดิม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราจึงควรจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุดูเสียก่อน โดยสิ่งที่เราพอที่จะสามารถแก้ไขปัญหา Bad Sector ได้ด้วยตัวเองก็คือการทำ Low Level Format ครับ โดยการทำ Low Level Format นี้สามารถทำได้ผ่านทางซอฟต์แวร์พิเศษจากทางผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ที่คุณใช้ งานอยู่ โดยสามารถไปหาดาวน์โหลดได้ตามเว็บไซต์แต่ละยี่ห้อได้เลยครับ
เมื่อพูดถึง Bad Sector แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้หลายๆ คน เกลียดมันที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันกำลังจะทำให้ข้อมูลของคุณเสียหายได้ในไม่ช้า อย่างที่เราได้พูดถึงการทำงานของฮาร์ดดิสก์กันมาข้างต้นแล้ว จะเห็นว่าฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนประกอบที่มีความบอบบางมากทีเดียว โดยเฉพาะส่วนของจานแม่เหล็กและหัวอ่าน ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงแค่นิดเดียว เรียกได้ว่าเส้นผมคนเรายังลอดผ่านไม่ได้กันเลยทีเดียว ดังนั้นหัวอ่านก็อาจจะมีกระทบกับจานแม่เหล็กอยู่เหมือนกันในกรณีที่เกิดแรง สั่นสะเทือนมากๆ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกแรงกระแทก นอกจากนี้การที่สารฉาบเคลือบผิวของจานแม่เหล็กนั้นเสื่อมสภาพ หรือสนามแม่เหล็กในบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถบันทึกข้อมูล สิ่งเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิด Bad Sector ขึ้นมาได้
ตามปกติเมื่อข้อมูลของเราโชคร้าย ไปอยู่ในส่วนที่เป็น Bad Sector พอดิบพอดี ก็จะทำให้ข้อมูลส่วนนั้นๆ ไม่สามารถอ่านได้เลย เนื่องจากฮาร์ดดิสก์จะพยายามเข้าไปอ่านส่วนที่เป็น Bad Sector นั้น ดังนั้นสิ่งที่พอจะสามารถทำได้ในการกู้ข้อมูลกลับคืนมาก็คือการใช้โปรแกรม ช่วยอย่างเช่นโปรแกรมสำหรับการสแกนดิสก์ ที่สามารถรองรับการทำ Surface Test ด้วย เพื่อที่มันจะได้มองหาโปรแกรม Bad Sector ได้ และโปรแกรมเหล่านี้ก็ยังสามารถที่จะกู้ข้อมูลที่อยู่ที่ Bad Sector ขึ้นมาได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดวงด้วยเหมือนกันว่าไฟล์ที่กู้ขึ้นมานั้นเป็นไฟล์อะไร และจะต้องยอมรับด้วยไฟล์ที่กู้คืนมาได้คงจะไม่ได้มีความสมบูรณ์ 100% นะครับ พร้อมกันนี้โปรแกรมที่ว่านี้ยังช่วยมาร์กจุดของ Bad Sector เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์มีการเขียนข้อมูลลงไปที่ Bad Sector อีก
**โปรแกรมสำหรับทำ Low level Format มีหลายตัว แต่ที่เหมาะคือ ?ของผู้ผลิตเอง?
แม้ว่าเราจะสามารถกู้คืนข้อมูลที่อยู่ใน Bad Sector ขึ้นมาได้แล้ว และได้มาร์กจุดของ Bad Sector เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีข้อมูลผู้โชคร้ายถูกเขียนลงไปอีก แต่ความน่ากลัวของมันก็ยังไม่หมด เนื่องจาก Bad Sector อาจจะมีอาการลุกลามเพิ่มขึ้นได้อีกจากจุดเดิม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราจึงควรจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุดูเสียก่อน โดยสิ่งที่เราพอที่จะสามารถแก้ไขปัญหา Bad Sector ได้ด้วยตัวเองก็คือการทำ Low Level Format ครับ โดยการทำ Low Level Format นี้สามารถทำได้ผ่านทางซอฟต์แวร์พิเศษจากทางผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ที่คุณใช้ งานอยู่ โดยสามารถไปหาดาวน์โหลดได้ตามเว็บไซต์แต่ละยี่ห้อได้เลยครับ
5.กู้ฮาร์ดดิสก์แบบ USB
เดี๋ยวนี้สื่อบันทึกข้อมูลแบบที่เรียกว่า External
Harddisk กำลังเป็นที่นิยมมากเลยนะครับ
เนื่องจากปริมาณข้อมูลที่มากมายมหาศาลต่อวันที่ผู้คนต้องพกพากันในวันนี้ไม่
ใช่มีแค่เพลง MP3 ขนาดแค่กิกะไบต์กันแล้ว
แต่อาจจะมีไฟล์วิดีโอหรือข้อมูลอื่นๆ ในระดับหลายๆ กิกะไบต์เลยก็ได้
ดังนั้นสื่อบันทึกข้อมูลอย่าง Flash Drive อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานของผู้ใช้บางคน
ดังนั้น External Harddisk แบบ USB จึงเข้ามาเติมเต็มความต้องการให้
แต่ถ้าเกิดข้อมูลสูญหายขึ้นมาจะทำอย่างไรได้บ้าง
จริงๆ แล้วฮาร์ดดิสก์แบบ External ที่เรารู้จักกันมันก็เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ที่ใส่อยู่ในเครื่องนั่นแหละครับ โดยถ้าเป็นแบบพกพาที่ไม่ต้องใช้ไฟจากอะแดปเตอร์ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้วเหมือนกับของโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเมื่อคุณเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์เหล่านี้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว มันก็จะมองเหมือนเป็นเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ธรรมดาตัวหนึ่งเลย
การกู้ข้อมูลของ External Harddisk นั้นไม่ได้มีความแตกต่างไปจากการกู้ข้อมูลภายในเครือซักเท่าไหร่ แต่อาจจะแบ่งกรณีความเสียหายได้ 2 กรณีคือ 1 เสียที่ตัวฮาร์ดดิสก์เอง ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับที่กล่าวมาข้างต้นว่าคุณสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ตั้งแต่การสแกนหาข้อมูลที่ ถูกลบไปจนไปถึงการแก้ไข Bad Sector ที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ กับอีกส่วนหนึ่งก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวกล่องที่ใส่ฮาร์ดดิสก์
ซึ่งกล่องตัวนี้มีความสำคัญคือช่วยแปลงการเชื่อมต่อของฮาร์ดดิสก์ทีเป็น IDE หรือ SATA มาเป็นแบบ USB หรือ Firewire นั่นเอง ดังนั้นถ้ามันเกิดเสียหายขึ้นมาก็จะทำให้ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถใช้งานได้
จริงๆ แล้วฮาร์ดดิสก์แบบ External ที่เรารู้จักกันมันก็เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ที่ใส่อยู่ในเครื่องนั่นแหละครับ โดยถ้าเป็นแบบพกพาที่ไม่ต้องใช้ไฟจากอะแดปเตอร์ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้วเหมือนกับของโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเมื่อคุณเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์เหล่านี้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว มันก็จะมองเหมือนเป็นเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ธรรมดาตัวหนึ่งเลย
การกู้ข้อมูลของ External Harddisk นั้นไม่ได้มีความแตกต่างไปจากการกู้ข้อมูลภายในเครือซักเท่าไหร่ แต่อาจจะแบ่งกรณีความเสียหายได้ 2 กรณีคือ 1 เสียที่ตัวฮาร์ดดิสก์เอง ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับที่กล่าวมาข้างต้นว่าคุณสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ตั้งแต่การสแกนหาข้อมูลที่ ถูกลบไปจนไปถึงการแก้ไข Bad Sector ที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ กับอีกส่วนหนึ่งก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวกล่องที่ใส่ฮาร์ดดิสก์
ซึ่งกล่องตัวนี้มีความสำคัญคือช่วยแปลงการเชื่อมต่อของฮาร์ดดิสก์ทีเป็น IDE หรือ SATA มาเป็นแบบ USB หรือ Firewire นั่นเอง ดังนั้นถ้ามันเกิดเสียหายขึ้นมาก็จะทำให้ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถใช้งานได้
6.ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กเสีย
จะกู้ได้อย่างไร
ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ของเครื่องพีซีเสีย การแก้ไขก็คงจะไม่ลำบากมากนั้น เพราะคุณสามารถเปิดเครื่องออกมาเอาฮาร์ดดิสก์ไปปลั๊กกับเครื่องอื่นเพื่อกู้ ข้อมูลได้ ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์โน้ตบู๊กนั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่า เพราะนอกจากคุณจะแกะฮาร์ดดิสก์ออกมาได้อย่างยากลำบากแล้ว ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กยังไม่เหมือนกับฮาร์ดดิสก์บนเครื่องพีซีอีกด้วย นอกจากมีขนาดที่เล็กกว่าแล้ว ยังมีพอร์ตสำหรับต่อสายที่ไม่เหมือนกันด้วย (ยกเว้นฮาร์ดดิสก์แบบ SATA ที่เหมือนกันและสามารถใช้งานร่วมกันได้) ดังนั้นคุณจึงต้องหาสายสำหรับแปลงสัญญาณจากฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กมาเป็น IDE สำหรับเครื่องพีซี หรืออาจจะแปลงไปเป็น USB เลยก็ได้เช่นเดียวกัน.
ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ของเครื่องพีซีเสีย การแก้ไขก็คงจะไม่ลำบากมากนั้น เพราะคุณสามารถเปิดเครื่องออกมาเอาฮาร์ดดิสก์ไปปลั๊กกับเครื่องอื่นเพื่อกู้ ข้อมูลได้ ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์โน้ตบู๊กนั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่า เพราะนอกจากคุณจะแกะฮาร์ดดิสก์ออกมาได้อย่างยากลำบากแล้ว ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กยังไม่เหมือนกับฮาร์ดดิสก์บนเครื่องพีซีอีกด้วย นอกจากมีขนาดที่เล็กกว่าแล้ว ยังมีพอร์ตสำหรับต่อสายที่ไม่เหมือนกันด้วย (ยกเว้นฮาร์ดดิสก์แบบ SATA ที่เหมือนกันและสามารถใช้งานร่วมกันได้) ดังนั้นคุณจึงต้องหาสายสำหรับแปลงสัญญาณจากฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กมาเป็น IDE สำหรับเครื่องพีซี หรืออาจจะแปลงไปเป็น USB เลยก็ได้เช่นเดียวกัน.
ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กกับเดสก์ท็อป
มีความแตกต่างกันทั้งขนาดและพอร์ตการเชื่อมต่อสายแปลงฮาร์ดดิสก์ IDE
เป็น USB ซึ่งสามารถใช้ได้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5?
และ 3.5?
แม้ว่าหัว IDE ของฮาร์ดิสก์โน้ตบุ๊กจะคล้ายกับเดสก์ทอป
แต่ว่าก็ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เพราะหัวมีขนาดเล็กว่า
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มี External Harddisk อยู่แล้ว และเป็นแบบกล่องที่สามารถแกะเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ภายในได้ ก็คือการถอดฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กออกมาแล้วเอาฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กที่เสียใส่ กลับเข้าไปแทน ด้วยวิธีการนี้ก็จะเป็นเหมือนกับการกู้ข้อมูลจาก External Harddisk อย่างที่เราได้เคยพูดไปในหัวข้อก่อนหน้ายังไงล่ะครับ
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มี External Harddisk อยู่แล้ว และเป็นแบบกล่องที่สามารถแกะเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ภายในได้ ก็คือการถอดฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กออกมาแล้วเอาฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊กที่เสียใส่ กลับเข้าไปแทน ด้วยวิธีการนี้ก็จะเป็นเหมือนกับการกู้ข้อมูลจาก External Harddisk อย่างที่เราได้เคยพูดไปในหัวข้อก่อนหน้ายังไงล่ะครับ
7.จะกู้อย่างไรในเมื่อฮาร์ดดิสก์ Detect
ไม่เจอ
ข้อผ่านๆ มาทั้งหลาย
เป็นการกู้ข้อมูลที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์เป็นหลัก
หรือไม่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เฟซด้วยอะแดปเตอร์เล็กน้อยซึ่งหมายความ
ว่าสภาพฮาร์ดดิสก์ยังทำงานได้ดีอยู่ แต่สำหรับหัวข้อสุดท้ายนี้
เราจะพูดถึงกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถ Detect
ได้เลย
หรือพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือคอมพิวเตอร์มองไม่เห็นว่ามีฮาร์ดดิสก์ต่ออยู่
กับเครื่องคอมพิวเตอร์เลย แบบนี้ก็แย่นะซิครับ
เพราะโปรแกรมอะไรก็คงไม่สามารถจะกู้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์กลับมาได้เลย
สาเหตุของการที่ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถ Detect ได้นั้นมีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนเกิดจากแผงวงจรควบคุมที่อยู่กับตัวฮาร์ดดิสก์นั้นแหละ ครับ เพราะมันรับผิดชอบในการติดต่อและรับ-ส่งข้อมูลกับคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าแผงวงจรเสีย ก็แปลว่าคุณก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในจานแม่เหล็กได้อีกเลย ทางเดียวที่สามารถแก้ไขได้ก็คือทำให้แผงวงจรกลับมาทำงานได้ดังเดิม ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ซึ่งก็ไม่ได้หายไปไหน ก็จะกลับมาสู่อ้อมอกคุณอีกครั้ง.
สาเหตุของการที่ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถ Detect ได้นั้นมีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนเกิดจากแผงวงจรควบคุมที่อยู่กับตัวฮาร์ดดิสก์นั้นแหละ ครับ เพราะมันรับผิดชอบในการติดต่อและรับ-ส่งข้อมูลกับคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าแผงวงจรเสีย ก็แปลว่าคุณก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในจานแม่เหล็กได้อีกเลย ทางเดียวที่สามารถแก้ไขได้ก็คือทำให้แผงวงจรกลับมาทำงานได้ดังเดิม ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ซึ่งก็ไม่ได้หายไปไหน ก็จะกลับมาสู่อ้อมอกคุณอีกครั้ง.
F1 ถึง F12 รู้ไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?
คีย์ที่กล่าวมาส่วนมากเราจะเรียนกมันว่า
"ฟังก์ชันคีย์" F1 ถึง F12 อาจมีความหลากหลายของการใช้งานที่แตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งและโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่เปิดอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการของแต่ละคีย์เหล่านี้
ยังรวมถึงการใช้งานฟังก์ชันคีย์รวมดับคีย์
ALT หรือ CTRL เช่นผู้ใช้
Microsoft Windows สามารถกด ALT + F4 เพื่อปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ ด้านล่างเป็นรายการบางส่วนของการทำงานของคีย์ฟังก์ชั่นในคอมพิวเตอร์ที่ใช้
Microsoft Windows แต่จะไม่ใช่ทุกโปรแกรมที่สนับสนุนฟังก์ชันคีย์
·
มักจะใช้เป็นคีย์ช่วยเกือบทุกโปรแกรมจะเปิดหน้าจอ
·
ป้อนการตั้งค่า
CMOS
·
Windows Key + F1 จะเปิดตัวช่วยของ Microsoft
Windows
·
เปิดบานหน้าต่างงาน
F2
·
ใน
Windows จะใช้ในการเปลี่ยนชื่อไอคอนหรือไฟล์
·
Alt + Ctrl + F2 เปิดเอกสารใหม่ในโปรแกรม
Microsoft Word .
·
Ctrl + F2 จะแสดงหน้าต่างตัวอย่างก่อนพิมพ์ใน
Microsoft Word
·
เข้าสู่การป้อนการตั้งค่า
CMOS หรือ Bios
F3
·
เปิดคุณลักษณะการค้นหาในหลายๆโปรแกรมรวมถึง
Microsoft Windows
·
ใน
MS - DOS หรือ Windows ของบรรทัดคำสั่ง F3 จะทำซ้ำคำสั่งสุดท้าย
·
Shift + F3 จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อความใน Microsoft
Word
F4
·
เปิดพบหน้าต่าง
·
ทำซ้ำการกระทำล่าสุด
( Word 2000 ขึ้นไป )
·
Alt + F4 จะปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ใน Microsoft
Windows
·
Ctrl + F4 จะปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ในหน้าต่างที่ใช้งานในปัจจุบันใน
Microsoft Windows
F5
·
ในทุกเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต
F5 จะรีเฟรชหรือโหลดหน้าเว็บหรือหน้าต่างเอกสาร
·
เปิดหน้าค้นหา
แทนที่ และไปที่หน้าต่างใน Microsoft Word
·
เริ่มสไลด์โชว์ใน
PowerPoint
F6
·
ย้ายเคอร์เซอร์ไปที่ Address bar ใน
Internet Explorerและ Mozilla
Firefox .
·
Ctrl + Shift + F6 เปิดไปยังเอกสารอื่น ๆ
ใน Microsoft Word
F7
·
ปกติจะใช้เพื่อตรวจสอบการสะกดและไวยากรณ์ตรวจสอบเอกสารในโปรแกรม
Microsoft เช่น Microsoft Word,
Outlook, ฯลฯ
·
Shift + F7 ทำงานตรวจสอบบนคำที่ไฮไลต์
·
เปิดการใช้งานเลือนหน้าต่างด้วยปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดใน
Mozilla Firefox
F8
·
แป้นฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้าสู่เมนูเริ่มต้น
Windows, นิยมใช้ในการเข้าถึง Windows แบบ Safe Mode .
F9
·
เปิดแถบเครื่องมือวัดใน
Quark 5.0
F10
·
ใน
Microsoft Windows เปิดใช้งานแถบเมนูของโปรแกรมที่เปิดอยู่
·
Shift + F10 เป็นเช่นเดียวกับการคลิกขวาบนไอคอนที่ไฮไลต์ไฟล์หรือการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต
·
การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่
ของ HP และ Sony คอมพิวเตอร์
·
ป้อนการตั้งค่า
CMOS .
F11
·
โหมดเต็มหน้าจอในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต
·
CTRL + F11 การเข้าถึง การกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของ Dell
·
การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่บน
eMachines, Gateway, และคอมพิวเตอร์ Lenovo
F12
·
เปิดหน้าที่ทำการบันทึกใน
Microsoft Word
·
SHIFT + F12 บันทึกเอกสาร Microsoft
Word
·
Ctrl + Shift + F12 พิมพ์เอกสารใน Microsoft
Word
เกร็ดเล็กๆครับเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มก่อนหน้านี้ยังมี F13 --
F24 บนแป้นพิมพ์ แต่เนื่องจากแป้นพิมพ์เหล่านี้ไม่มีการใช้งานจึงได้ถูกนำออกไป
เอาไปประดับความรู้กันจะได้รู้ว่า
ไอ้ปุ่มพวกนี้ที่เราไม่เคยใช้งานความจริงมันใช้ได้ดีเสียด้วย นี่แค่บางส่วนถ้า
ว่าง จะหาแบบเต็ม ๆ มาให้ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)